วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

10 อันดับผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก 2013

10 อันดับผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก 2013


       เป็นผลการสำรวจคร่าวๆโดยชาวอเมริกันคนนึงครับ  ผมว่าไม่สวยนะ  แต่ฝรั่งเขาบอกสวย  งั้นชาวเด็กดีมาลองดูกัน  (ปล.ชอบอันดับ 4)



อันดับ 10 ได้แก่ olga kurylenko






อันดับ 9 ได้แก่ Rihanna






อันดับ 8 ได้แก่ Jessica Alba





อันดับ 7 ได้แก่ Keira Knightley




อันดับ 6 ได้แก่ Adele




อันดับ 5 ได้แก่ Meryem Uzerli




อันดับ 4 ได้แก่ Monica Bellucci




อันดับ 3 ได้แก่ Charlize Theron




อันดับ 2 ได้แก่ Aishwarya Rai




อันดับ 1 ได้แก่ Angelina Jolie

รวยที่สุดในโลก

10. Michael Bloomberg

อันดับที่ 10 ได้แก่ Michael Bloomberg มีเงินมากถึง 25 พันล้านดอลลาร์ อายุ 71 Michael Bloomberg นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก 2 สมัย และอาจกำลังหมายตาตำแหน่งที่สูงกว่านั้น ส่วนบริษัทที่เขาก่อตั้ง Bloomberg LP ประสบความสำเร็จอย่างสูงและเติบโตขึ้นทุกขณะ
เครดิต :
แหล่งที่มา :

9. S. Robson Walton

อันดับที่ 9 ได้แก่ S. Robson Walton มีเงินมากถึง 26.1 พันล้านดอลลาร์ อายุ 69 เขาผู้นี้แหละเป็นทายาทคนโตของ แซม วอลตัน ผู้ก่อตั้ง War-mart ปัจจุบัน นั่งในตำแหน่ง แชร์แมนของ war-mart
เครดิต :
แหล่งที่มา :

8. Alice Walton

อันดับที่ 8 ได้แก่ Alice Walton มีเงินมากถึง 26.3 พันล้านดอลลาร์ อายุ 63 เธอเป็นลูกสาวของผู้ก่อตั้ง Wal - mart นั้นก็คือ Sam Waltonและ Helen Walton, และเธอเป็นน้องสาวของ Robson Walton, และ Jim Walton
เครดิต :
แหล่งที่มา :

7. Jim Walton

อันดับที่ 7 ได้แก่ Jim Walton มีเงินมากถึง 26.8 พันล้านดอลลาร์ อายุ 65 หนึ่งใมนทายาทตระกูลวอลตัน เขานั่งเป็น CEO แลแชร์แมน ของ Arvest Bank Group, Inc.
เครดิต :
แหล่งที่มา :

6. Christy Walton & ครอบครัว

อันดับที่ 5 ได้แก่ Christy Walton & ครอบครัว มีเงินมากถึง 27.9 พันล้านดอลลาร์ อายุ 58 Christy Walton เป็นคนที่มั่งคั่งที่สุดในจำนวนสมาชิกทั้งหมดในครอบครัว ทีประกอบธุรกิจค้าปลีกขนาดยักษ์ Wal-Mart เธอเป็นหม้ายเจากการเสียชีวิตของสามี John T. Walton ที่เป็นลูกชายของ Sam Walton ผู้ก่อตั้ง Wal-Mart หลังจากสามีเธอเสียชีวิตเมื่อเดือน มิถุนายน 2005 เธอก็ถือครองมรดกมูลค่า 15.7 พันล้านเหรียญของเขา และกลายเป็นผู้หญิงที่รวยที่สุดในโลก
เครดิต :
แหล่งที่มา :

5. David Koch

อันดับที่ 5 ได้แก่ David Koch มีเงินมากถึง พันล้านดอลลาร์ อายุ 72 เจ้าพ่อธุรกิจด้านพลังงานของบริษัท Koch Industries เป็นคนน้องของตระกูล Koch
เครดิต :
แหล่งที่มา :

4. Charles Koch

อันดับที่ 4 ได้แก่ Charles Koch มีเงินมากถึง 31 พันล้านดอลลาร์ อายุ 77 เจ้าพ่อธุรกิจด้านพลังงานของบริษัท Koch Industries เป็นคนพี่ของตระกูล Koch
เครดิต :
แหล่งที่มา :

3. Larry Ellison

อันดับที่ 3 ได้แก่ Larry Ellison มีเงินมากถึง 41 พันล้านดอลลาร์ อายุ 68 ลาร์รี่ย์ เอลลิสัน เขาเป็น CEO ของบริษัท Oracle ซึ่งเป็นบริษัทซอฟแวร์ยักษ์ใหญ่ของโลก
เครดิต :
แหล่งที่มา :

2. Warren Buffett

อันดับที่ 2 ได้แก่ Warren Buffett มีเงินมากถึง 46 พันล้านดอลลาร์ อายุ 82 ชื่อเต็มๆของเขาคือ "วอร์เร็น เอ็ดเวิร์ด บัฟเฟตต์" เขาเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และซีอีโอของบริษัทเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ บัฟเฟตต์มักจะได้รับฉายาว่าเป็น เทพพยากรณ์แห่งโอมาฮา หรือไม่ก็ ปราชญ์แห่งโอมาฮา วอร์เรน บัฟเฟตต์ เกิดที่เมืองโอมาฮา ในรัฐเนแบรสกา ได้ซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ปี เข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่วอร์ตัน มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย และได้ย้ายไปเรียนและจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเนแบรสกา หลังจากนั้นได้ศึกษาต่อระดับปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ที่ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในปี 1951
เครดิต :
แหล่งที่มา :

1. Bill Gates

อันดับที่ 1 ได้แก่ Bill Gates มีเงินมากถึง $66 พันล้านดอลลาร์ อายุ 57 ชื่อเต็มๆของเขาคือ " วิลเลียม เฮนรี เกตส์ ที่สาม " แต่เรามักเรียกเขาว่า "บิล เกตส์" เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกัน และหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ เขากับผู้บุกเบิกด้านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลคนอื่น ๆ ได้ร่วมกันเขียนต้นแบบของภาษาอัลแตร์เบสิก ซึ่งเป็นอินเตอร์เพรเตอร์สำหรับเครื่องอัลแตร์ 8800 (เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในยุคแรกๆ) เขาได้ร่วมกับพอล แอลเลน ก่อตั้งไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชันขึ้น ซึ่งในขณะนี้เขาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร และหัวหน้าสถาปนิกซอฟต์แวร์ นิตยสารฟอบส์ได้จัดอันดับให้ บิล เกตส์ เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกหลายปีติดต่อกัน วิลเลียม เฮนรี เกตส์ ที่สามได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการอัศวินแห่งจักรวรรดิบริเตน (KBE) จากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 บิล เกตส์ กับภรรยาได้ก่อตั้ง มูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์ ขึ้นเพื่อเป็นองค์กรการกุศล และได้อุทิศเงินทุนของมูลนิธิให้เป็นเงินกองทุนเพื่อทุนการศึกษาในวิทยาลัยของชนกลุ่มน้อย เป็นทุนวิจัยเพื่อการป้องกันโรคเอดส์ อันเป็นโรคซึ่งแพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศโลกที่สาม รวมทั้งยังสนับสนุนโครงการการกุศลอื่น ๆ อีกหลายโครงการ มูลนิธิได้ให้เงินงบประมาณเพื่อการกำจัดโรคโปลิโอให้หมดไป คิดเป็นมูลค่ากว่าร้อยละ 90 ของงบประมาณทั้งโลกเพื่อการนี้ อันเนื่องมาจากนโยบายขององค์การอนามัยโลก ที่มุ่งประเด็นความสนใจไปยังโรคอื่น ๆ ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1999 บิล เกตส์ และภรรยาได้บริจาคเงิน 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับมูลนิธิของทั้งคู่ และพวกเขายังบริจาคเงินมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่ทุกข์ทรมานจากโรคเอดส์ เมื่อวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2005 ได้มีการประกาศว่ามูลนิธิได้บริจาคเงินเพิ่มขึ้นอีก 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับกองทุนวัคซีน เพื่อช่วยในการต่อสู้กับโรคต่างๆ เป็นต้นว่าโรคคอตีบ โรคไอเกรน โรคหัดเยอรมัน โรคโปลิโอ และ ไข้เหลือง และล่าสุดใน ค.ศ. 2005 มียอดเงินบริจาคอยู่ที่ 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุด ในเดือนกรกฎาคม 2006 บิล เกตส์ ประกาศอำลาตำแหน่งสถาปนิกซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ เพื่อจะได้มีเวลาอุทิศตนเพื่องานการกุศลของมูลินิธิบิลและเมลินดา เกตส์มากขึ้น โดยขอเวลาสองปีเพื่อถ่ายโอนงานให้เรียบร้อย

วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

การบริหารหน้าเรียว

ผ่อนคลายส่วนต่างๆ ด้วยการบริหารกล้ามเนื้อและผิวหน้า 
'หน้าเรียวเล็กลงได้ด้วยการนวดบริหารใบหน้า'

คอลัมน์ Health ฉบับนี้มาบอกถึงเทคนิคการนวดกระชับใบหน้าให้เรียวเล็กและสวยขึ้นได้อย่างมั่นใจ แต่จะดียังไง...ไปติดตามกันเลย  ขั้นเตรียมการ
เช็ดก่อนนวด
ขั้นที่ 1 ใช้ช้อนที่แช่ในน้ำแข็ง ถ้าใช้ช้อนที่เย็นๆ จะทำให้ความร้อนบนใบหน้าคงที่ และได้ผลแน่นอนเป็น 2 เท่า
ขั้นที่ 2 หลังจากที่ใช้ครีมทาหน้าที่มีองค์ประกอบนุ่มนวลต่อผิวทั่วใบหน้าแล้ว ก็เริ่มขั้นตอนต่อไปได้เลย

ขั้นตอนก่อนนวดหน้าด้วยช้อน
Warm Up
ก่อนที่จะนวดบริเวณซอกเล็กๆ ก่อนอื่นต้องเริ่มจากการผ่อนคลายความตึงเครียดของใบหน้า ดูแลส่วนที่กว้างบนใบหน้า เช่น แก้ม และหน้าผากด้วยมือ
1. ทาโลชั่นให้ทั่วใบหน้า การขาดความชุ่มชื่น เป็นสาเหตุของปัญหาผิวก่อนนวด จึงต้องทาโลชั่น   ก่อน เริ่มทาจากตรงกลาง ไล่ไปด้านนอก เป็นเทคนิคที่ทำให้ความชุ่มชื้นกระจายทั่วใบหน้า
2. ขั้นตอนต่อไป ทาครีมก่อนนวดหน้า ต่อจากขั้นตอนทาโลชั่น คือการใช้ครีมทาหน้าทาให้ทั่ว ถ้าเป็นครีมที่มีองค์ประกอบนุ่มนวลต่อผิวหน้าก็ดี ในส่วนที่ต้องนวด เช่น หน้าผากกับลำคอ ก็อย่าลืมทาด้วย
3. นวดแก้มวนไปมาทั้งสองข้าง เพื่อผ่อนคลายบริเวณแก้ม นวดแก้มโดยทำมือเหมือนในภาพแล้วถูวนจากข้างในไปข้างนอก เหมาะกับการผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่เกร็งอยู่ ทำซ้าย-ขวาเพียง 3 ครั้ง
4. กระตุ้นเล็กน้อยตรงบริเวณโหนกแก้มทั้ง 4 จุด ใช้ปลายช้อนกดตรงจุดสีดำ ทั้ง 4 จุดไล่จากโหนกแก้มถึงบริเวณขมับ ตรงนี้จะช่วยลดอาการบวมบริเวณแก้ม ทำทั้งสองข้างสลับกัน 3 ครั้ง

 [ตาโต] เป็นก้าวแรกสู่ใบหน้าที่เรียวเล็ก! 
เพิ่มพลังให้กับดวงตา
เมื่อดวงตากลมโต ใบหน้าก็จะดูเล็กลงทันที! เพิ่มพลังให้กับดวงตาโดยใช้ช้อนไปแตะบริเวณเปลือกตา [แต่ระวังอย่าให้เข้าตา]
1. ก่อนอื่นต้องผ่อนคลายดวงตาที่ล้าด้วยช้อนเย็นๆ ใช้บริเวณส่วนโค้งของหลังช้อนแตะเปลือกตาเบาๆ แล้วทิ้งไว้ 10 วินาที เป็นการลดอาการบวมของดวงตา
2. ลากส่วนที่นูนของเปลือกตาบนด้วยปลายช้อน ใช้ปลายช้อนลากตามรอยในภาพ ตรงบริเวณใต้หัวคิ้ว ทำสลับกัน 3 ครั้ง ระวังอย่าให้แรงมากเกินไป
3. ดึงเปลือกตาล่าง หางตาที่เชิดขึ้นจะทำให้ดูน่ารัก บริเวณเปลือกตาล่างให้ใช้หลังช้อนลากจากหัวตามาหางตา ทำสลับกัน 3 ครั้ง เทคนิคอยู่ที่ระหว่างที่ลากนั้นให้ใช้ปลายช้อนกดเบาๆ
4. จากข้อ 1 ถึงข้อ 3 ใช้เวลา 1 นาที

ขับสารพิษจากคอถึงบริเวณคอเสื้อ
การไหลเวียนของน้ำเหลือง
ช่วงคอไปจนถึงบริเวณคอเสื้อนั้นจะเป็นส่วนที่สกปรกง่ายเป็นพิเศษ ซึ่งบริเวณนี้จะขาดการดูแลและอุดตันง่าย การนวดด้วยช้อนจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันได้
1. ใช้หลังช้อนกดลงระหว่างต้นคอและใบหู ใช้ช้อนกดต้นคอบริเวณหลังใบหู (ตรงจุดดำในรูป) ใช้นิ้วโป้งกดลงไปเบาๆ ใช้ส่วนที่โค้งของหลังช้อนกดจนรู้สึกว่าสบาย
2. เอาสิ่งสกปรกออก ลากลงมาที่ไหปลาร้า จากจุดที่ 1 ใช้ช้อนลูบลงมาตามกล้ามเนื้อคอจนถึงไหปลาร้า เนื่อจากบริเวณ    ไหปลาร้ามีต่อมน้ำเหลืองอยู่มาก ควรกดเบาๆ ทำสลับกันซ้าย-ขวา 3 ครั้ง
3. ลากช้อนจากล่างขึ้นบน ช่วยลดความหย่อนคล้อยช่วงคอ ใช้ช้อนลูบขึ้นตามเส้นในภาพ โดยเริ่มจากช่วงบนของไหปลาร้า เลื่อนไป ตามลูกศร สลับกัน 3 ครั้ง
4. จบด้วยการกระตุ้นจากคางไปจนถึงบริเวณคอ ใช้ปลายช้อนกดใต้คาง แล้วลากขึ้นไปถึงบริเวณต้นคอ ระวังอย่ากดแรง   เกินไป ทำสลับซ้าย-ขวา 3 ครั้ง เท่านี้ก็เสร็จตาม Face Line 5. ข้อ 1 ถึงข้อ 4 ใช้เวลา 1 นาที

ขั้นตอนสุดท้ายเพื่อ "ใบหน้าที่เรียวเล็กในครั้งเดียว"
ดึงหน้าเป็นวงกลม
บอกลาความหย่อนคล้อยด้วยการนวดหน้าผาก และดึงหน้า 3 ขั้น จากคางไปขมับ, จากโหนกแก้มไปขมับ และผิวรอบดวงตาไปขมับ ซึ่งจะทำให้เข้าถึงใบหน้าเรียวเล็กที่ถวิลหา
1. ลากตามเส้นจากปลายคางไปถึงขมับ ใช้หลังช้อนลากจากปลายคางไปขมับ แล้วใช้มืออีกข้างดึงขมับไปพร้อมๆ กัน (ทำเหมือนกัน 3 ครั้งเป็นอย่างน้อย) ทำสลับกันซ้าย-ขวา 3 ครั้ง
2. ลากจากโหนกแก้มไปขมับเหมือนครั้งแรก ต่อไปลากจากบริเวณด้านล่างโหนกแก้มไปขมับ ใช้แรงกดช้อนให้เท่าๆ กัน เป็นการยกกระชับผิวเป็นพิเศษ ทำสลับกัน 3 ครั้ง
3. ทำให้หางตาได้รูปโดยลากจากหัวตาไปขมับ เอาช้อนกดบริเวณด้านล่างของหัวตาแล้วลากไปขมับ เนื่องจากหางตาเป็นส่วนที่บอบบางระคายเคืองได้ง่าย ระวังอย่าใช้แรงมากจนเกินไป ทำสลับกัน 3 ครั้ง
4. หน้าผากก็ทำเช่นเดียวกัน! หน้าผากก็นวดด้วยหลังช้อนเช่นกัน เริ่มจากตรงกลางแล้วค่อยกระเถิบไปด้านข้าง ลากไปจนถึงไรผม เซ็ตนี้ทำซ้ำๆ กัน 3 ครั้ง

มาใส่ใจปากที่มีเสน่ห์ด้วย
ริมฝีปากที่เอิบอิ่ม
ถึงแม้ว่าใบหน้าจะเล็กเรียว แต่คงไม่อยากแค่หน้าเล็กเพียงอย่างเดียว        ต่อไปจะแนะนำเทคนิคให้ปากเอิบเอิ่มอย่างง่ายๆ ด้วยการใช้ช้อนนวด
1. ทาลิปมันแล้วใช้ช้อนแตะเบาๆ เช่นเดียวกับการนวดหน้า ก่อนอื่นทาลิปมันที่ริมฝีปาก เมื่อทาจนทั่วแล้วก็ใช้ด้านหลังของช้อนเคาะที่ริมฝีปากเบาๆ
2. นวดริมฝีปากล่างเหมือนวาดรูปเหรียญ ใช้หลังช้อนบริเวณปลายช้อนนวดริมฝีปากล่างจากปลาย แล้วเลื่อนไปเรื่อยๆ เหมือนเหรียญเล็กๆ ทำซ้ำ 3 รอบ
3. ริมผีปากก็ทำเหมือนกันเพื่อเพิ่มวอลลุ่ม นวดริมฝีปากบนจากปลายเหมือนริมฝีปากล่าง จากเส้นรูปปากนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนยื่นออกมาเล็กน้อย วาดเป็นรูปเหรียญเล็กๆ 3 ครั้ง แค่นี้ก็เรียบร้อย!
4. จากข้อ 1 ถึงข้อ 3 ใช้เวลา 1 นาที 

รถที่แพงที่สุดในโลก

คันนี้เลย! รถที่แพงที่สุดในโลก คันปัจจุบัน ราคา 8 ล้านเหรียญ

Advertisement
กลับมาพบกันอีกแล้วกับความเป็นที่สุดในโลก วันนี้เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องยวดยานพาหนะ หรือรถยนต์ที่เราๆท่านๆใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้ครับ และก็ต้องบอกว่ารถยนต์นั้นมันเป็นปัจจัยหลักสำหรับคนเราไปแล้วอีกหนึ่งอย่าง เพราะว่าไม่ว่าเราจะไปที่ไหน สัญจรไปทางใดล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยรถยนตืกันทั้งนั้น และยิ่งด้วยปัจจุบันที่เทคโนโลยีด้านรถยนต์นั้นมีความทั้นสมัยมากยิ่งขึ้น มันก็ยิ่งตอบสนองความต้องการของคนเราได้มากขึ้นตามลำดับนั่นเอง
แต่ว่ารถยนต์ที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้นั้น เป็นรถยนต์ที่มันไม่ธรรมดา เพราะมันคือ “รถที่แพงที่สุดในโลก” นั่นเอง รถยนต์ที่แพงที่สุดในโลกคันปัจจุบันนั้น จะเป็นคันไหนไปไม่ได้เลยในตอนนี้นอกจากเจ้า Maybach Exelero รถยนตืจากประเทศเยอรมันโดยราคาที่แพงที่สุดในโลกของมันนั้นกอยู่ที่ราวๆ 8 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้นน่ะครับ ไม่แพงหรอกใช่มั้ย? จะบ้าเหรอแพงสุดๆ ถ้าตีเป็นเงินบาทไทยก็น่าจะประมาณ 240 ล้านบาท เท่านั้นเองแหละครับ ซึ่งรถยนต์ในปี 2013 นี้ไม่มีคันไหนที่แพงไปกว่า Maybach Exelero คันนี้อีกแล้ว
แล้วเราก็มาดูข้อมูลเกี่ยวกับ รถยนต์ที่ราคาแพงที่สุดในโลกคันนี้กันด้วยเลยน่าครับ Maybach Exelero ถูกสร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจจากรถสปอร์ตหรูในปี 1930  รวมเข้ากับ Maybach 57 limousine รถยนต์ที่มีความหรูหราเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เจ้า Maybach Exelero  คันนี้าพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด V12 ทวินเทอร์โบ ให้กำลังที่ 700 แรงม้า สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดถึง 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  มีน้ำหนักรถถึง 2.6 ตันเลยทีเดียว แต่ว่าวิ่งได้ฉิวมากๆเลย นอกจากจะเป็นรถที่แพงที่สุดในโลกแล้ว Maybach Exelero  คันนี้ยังถูกผลิตขึ้นเพียงคันเดียวในโลกเท่านั้น
รถที่แพงที่สุดในโลก
สำหรับการสร้างรถยนต์ราคาสุดแพงคันนี้นั้น เริ่มต้นมาจากเพียงแค่บริษัทผลิตยางรถยนต์คุณภาพสูงในประเทศเยอรมนี ที่ชื่อว่า  Fulda Tire  ต้องการรถยนต์ที่จะไว้ใช้ทดสอบสมรรถนะของยางรถยนต์รุ่นใหม่เท่านั้น โดยได้จัดการประกวดการออกแบบรถยนต์ระหว่างนักเรียนออกแบบยานยนต์ขึ้น และได้ผุ้ชนะการประกวดไปร่วมงานในการผลิต Maybach Exelero
และสามาเหตุที่ทำให้รถยนต์คันนี้มีราคาแพงที่สุดในโลกก็เมื่อ ถึงคราวที่ Fulda Tire เลิกใช้รถคันดังกล่าว  ทาง Fulda Tire ทำการขายรถคันนี้ต่อให้กับนักธุรกิจอัญมณี  อังเดร แจ๊คสัน ในราคา 7.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหลังจากที่เขาได้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวแล้ว แจ๊คสันก็ได้ให้ เจย์-ซี นักร้องแร็ปเปอร์ชื่อดัง นำเอา Maybach Exelero ไปประกอบฉากในมิวสิกวิดีโอ สำหรับพลง Lost one หลังจากนั้นก็ได้ขายต่อให้กับ ไบรอัน วิลเลี่ยม หรือ เบิร์ดแมน นักร้องแร็ปเปอร์ชื่อดังอีกคน โดยราคาที่ขายในตอนนี้อยู่  8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ  240 ล้านบาท ในปี 2011 ที่ผ่านมา จึงนับเป็นรถยนต์ที่ถือว่าซื้อกันโดยไม่ผ่านการประมูลที่มีราคาสูงที่สุดในโลกในตอนนี้เลยก็ว่าได้ครับ ถ้าใครมีตังมากๆก็ลองไปขอวื้อต่อจาก ไบรอัน วิลเลี่ยม  ดูก็ได้น่ะครับ เผื่อจะได้รถแพงที่สุดในโลกมาครอบครองไว้ที่บ้าน
รถที่แพงที่สุดในโลก
รถที่แพงที่สุดในโลก
รถที่แพงที่สุดในโลก
รถที่แพงที่สุดในโลก
รถที่แพงที่สุดในโลก

รถต้นแบบ ฮอนด้า


ฮอนด้า เตรียมเปิดตัวรถต้นแบบพลังไฟฟ้า 7 รุ่นรวด





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก world.honda.com

           ใกล้เข้ามาแล้ว สำหรับงาน "โตเกียว มอเตอร์โชว์ 2011" (Tokyo Motor Show 2011) ครั้งที่ 42 ซึ่งจะจัดขึ้นที่โตเกียว บิ๊กไซต์ (Tokyo Big Sight) ประเทศญี่ปุ่น ในระหว่างวันที่ 3 - 11 ธันวาคมที่จะถึงนี้ โดยไฮไลท์หลัก ๆ ก็คือการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ๆ ของค่ายต่าง ๆ ที่เตรียมพารถรุ่นใหม่ ๆ มาให้ผู้ที่ชื่นชอบในเรื่องของยานยนต์ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด

           แต่ไม่ว่าค่ายรถยนต์ไหนจะมีรถรุ่นใหม่ ๆ ที่จ่อเปิดตัวกันยังไง ก็คงไม่เป็นที่สนใจเท่า "ฮอนด้า" (Honda) แน่นอน เพราะว่าบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ได้ประกาศอย่างชัดเจนเลยว่า ในงานนี้พวกเขาพร้อมแล้วที่จะเปิดตัวรถต้นแบบที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลักทีเดียวถึง 7 รุ่นรวด ทั้งในส่วนของรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์

           โดยทางฮอนด้าออกคอนเซ็ปต์มาอย่างชัดเจนเลยว่า ในงานนี้ฮอนด้าจะนำเสนอชีวิตแห่งความเคลื่อนไหวที่น่าตื่นเต้นของโลกอนาคต ภายใต้แนวคิด "What makes people feel good?" (อะไรที่ทำให้คนเรารู้สึกดี?) ซึ่งจะเป็นการสะท้อนวิสัยทัศน์ในฐานะผู้ผลิตนวัตกรรมแห่งการเคลื่อนที่ส่วนตัวให้แก่ผู้คนทั่วโลก โดยจะใช้ทั้งพลังงานไฟฟ้าและพลังงานธรรมชาติอย่างพลังงานแสงอาทิตย์ มาเป็นจุดเด่นหลัก ๆ ในการพัฒนาและสร้างรถรุ่นใหม่ ๆ ของฮอนด้าต่อไปในอนาคต

           ด้วยเหตุนี้เอง ฮอนด้าจึงได้คิดรถต้นแบบที่ใช้ระบบไฟฟ้าต่าง ๆ มาถึง 7 คันเน้น ๆ ซึ่งแต่ละรุ่นแต่ละแบบนั้น ต้องบอกเลยว่าเป็นคอนเซ็ปต์คาร์ที่น่าสนใจมาก ๆ ฉะนั้นแล้วเราลองไปดูกันดีกว่าว่า ทั้ง 7 รุ่นที่ว่านั้น จะมีอะไรบ้างและจะน่าสนใจเหมือนที่ฮอนด้าได้ตั้งคอนเซ็ปต์เอาไว้หรือเปล่า ตามมาดูกันเลย



AC-X

           เริ่มกันที่รถยนต์ไฮบริดแบบ "ปลั๊ก-อิน" (Plug-in) แห่งอนาคต ที่จะตอบโจทย์ด้านความสนุกสนานและความสะดวกสบายที่มากขึ้นในทุกสภาพการขับขี่ ทั้งในเมืองและการเดินทางระยะไกล AC-X มาพร้อมกับ 2 โหมดการขับขี่เด่น ๆ ทั้ง "โหมดการขับด้วยเครื่องยนต์" เพื่อการขับขี่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และ "โหมดการขับแบบอัตโนมัติ" เพื่อให้คนขับสามารถผ่อนคลายกับการเดินทางได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลในเรื่องการขับขี่อีกต่อ ซึ่งจะเหมาะมาก ๆ สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไกลหรือต้องใช้เวลาอยู่ในรถเป็นเวลานาน ๆ



MICRO COMMUTER CONCEPT

           รถคันนี้จะเป็นรถพลังงานไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด กับรูปทรงภายนอกที่แหวกแนว ล้ำสมัย แถมผู้ที่เป็นเจ้าของยังสามารถเพิ่มหรือตกแต่งรถได้ตามที่ต้องการอีกด้วย ซึ่งจะเน้นใช้งานในเมืองเป็นหลัก และด้วยการร่วมมือระหว่างศูนย์วิจัยและพัฒนารถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ช่วยให้รถรุ่นนี้สามารถบรรทุกรถมอเตอร์ไซค์ "MOTOR COMPO " ได้อย่างสบาย ๆ เลยทีเดียว



SMALL SPORTS EV CONCEPT

           นี่จะเป็นรถสปอร์ตแบบระบบ EV ที่จะให้ความสนุกแก่การขับขี่อย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ทั้งความสะดวกสบายและเรื่องของอัตราเร่งความเร็วต่าง ๆ อีกทั้ง ยังเป็นรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย



MOTOR COMPO

           รถมอเตอร์ไซค์แบบระบบ EV คันนี้มีขนาดที่เล็ก น่ารัก ๆ กำลังดี ขับขี่ง่าย สามารถบรรทุกใส่ในรถ MICRO COMMUTER CONCEPT ได้อย่างสบาย ๆ นอกจากนี้ยังสามารถถอดแบตเตอร์รี่ออกมาเพื่อเป็นแหล่งพลังงานที่ใช้ในชีวิตประจำวันด้วย



E-CANOPY

           รถสกู้ตเตอร์แบบสามล้อนี้ พัฒนาขึ้นมาจากการระบบ EV ไปติดตั้งบนตัวรถให้เกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของฮอนด้า เหมาะสำหรับใช้งานส่วนตัวและงานธุรกิจ เช่น การส่งของ โดยสามารถติดตั้งที่เก็บของเพิ่มเติมในด้านหลังของตัวรถได้



RC-E

           นี่คือรถมอเตอร์ไซค์ซูเปอร์สปอร์ตรุ่น EV ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการขับขี่อย่างเต็มที่ RC-E มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 250 ซีซี ซึ่งอยู่บนตัวถังที่มีการดีไซน์ให้มีขนาดกะทัดรัด นอกจากนั้นแล้วยังมีจุดเด่นตรงที่ให้สมรรถนะที่แรงและทรงพลัง แต่แฝงความนุ่มนวลในทุก ๆ ที่ขับขี่อีกด้วย



TOWNWALKER

           ปิดท้ายกันที่ รถเล็กที่ลักษณะคล้ายกับรถกอล์ฟคันนี้ ที่มีการดีไซน์มาเพื่อใช้ในเใองโดยเฉพาะ แถมยังเหมาะสำหรับคุณพ่อบ้านแม่บ้าน ในการใช้งานเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น จ่ายตลาด หรือขนของนิด ๆ หน่อย ๆ ขณะที่อีกหนึ่งจุดเด่นของ TOWNWALKER ก็คือสามารถบรรทุกใส่ในรถยนต์ได้ง่าย ๆ เพียงแค่พับแผงคันบังคับที่อยู่ด้านหน้าและส่วนของที่นั่งเข้าหากันแค่นั้นเอง


           ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้ง 7 รุ่นของฮอนด้าที่เตรียมจะเปิดตัวพร้อม ๆ กันในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2011 นี้ ยังคงเป็นเพียงรถต้นแบบเท่านั้น ยังไม่มีการผลิตออกมาในเชิงพาณิชย์อย่างทางการแต่อย่างใด แต่ที่แน่ ๆ คือเราได้เห็นแล้วว่า ทิศทางด้านยานยนต์ในอนาคตข้างหน้า ดูแล้วจะมีแต่การใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนพลังงานน้ำมันที่รอวันหมดจะโลกอย่างเป็นทางการแน่นอน..




วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เครื่องดนตรีประจำชาติอาเซียน

รอบรู้ : เครื่องดนตรีประจำชาติอาเซียน

รอบรู้ : เครื่องดนตรีประจำชาติอาเซียน

Click here to see a large version
รูปภาพ รอบรู้ : เครื่องดนตรีประจำชาติอาเซียน
Click here to see a large version
รูปภาพ รอบรู้ : เครื่องดนตรีประจำชาติอาเซียน
Click here to see a large version
รูปภาพ รอบรู้ : เครื่องดนตรีประจำชาติอาเซียน
Click here to see a large version
รูปภาพ รอบรู้ : เครื่องดนตรีประจำชาติอาเซียน
Click here to see a large version
รูปภาพ รอบรู้ : เครื่องดนตรีประจำชาติอาเซียน
Click here to see a large version
รูปภาพ รอบรู้ : เครื่องดนตรีประจำชาติอาเซียน
Click here to see a large version
รูปภาพ รอบรู้ : เครื่องดนตรีประจำชาติอาเซียน
Click here to see a large version
รูปภาพ รอบรู้ : เครื่องดนตรีประจำชาติอาเซียน
Click here to see a large version